
คุณปุ๋ย เพิ่งย่างเข้าอายุ 32 ปีนี้ เมื่อประมาณ 5 ปีก่อน เธอแต่งงานกับสามีที่น่ารักและรักเธอมาก ตอนนี้ทั้งคู่มีลูกชายแล้วคนหนึ่งกำลังซนเชียว ชีวิตคู่ของเธอยังสดใสซาบซ่า ราบรื่นเหมือนวันแรกๆ ที่แต่งงานกันเลย
มองดูคู่นี้แล้วก็เห็นว่ามีความสุขดี ทั้งๆ ที่เพื่อนสนิทๆ จะทราบดีว่าคุณปุ๋ยนั้นมีโรคประจำตัวอยู่โรคหนึ่ง คือเธอเป็นหอบหืดมาตั้งแต่ยังเล็กๆ เวลาอาการกำเริบทีแสนจะทรมาน เพราะหายใจไม่ออก เหนื่อยหอบ ต้องรับประทานยาคุมอาการไว้ตลอด วันดีคืนดีมันจะกำเริบมาเมื่อไหร่ไม่รู้ หากเธอต้องทำกิจกรรมที่ออกแรงมากๆ ตื่นเต้น หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นละอองตัวก่อภูมิแพ้
เจ้าโรคหอบหืดนี่เป็นอุปสรรคต่อชีวิตคู่เธอไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องบนเตียง เวลาที่อารมณ์เพลิดพาไป ทุกอย่างกำลังอุ่นเครื่องได้ที่ หลายครั้งเธอมีอันต้องหอบแฮ่กเกินปกติ ไอโขลกไม่หยุด จนในที่สุดถึงกับสลบไสลไปบนเตียง เพราะหืดมันไม่เป็นใจไปกับเธอด้วย
คงเรียกได้ว่าเป็นโชคดีของเธอที่มีสามีที่เข้าใจปัญหา เพราะเรียนรู้และยอมรับกันมานานพอตั้งแต่ก่อนแต่ง ทั้งคู่ช่วยกันประคับประคองวิถีแห่งชีวิตรักที่มีโรคหอบหืดเป็นของแถมเอาไว้จนอยู่ร่วมกับมันได้อย่างแฮ้ปปี้
แรกๆ ที่เกิดปัญหาหอบเหนื่อยมากๆ ระหว่างมีเซ็กส์เธอก็ไม่กล้าปรึกษาใคร ทั้งรู้สึกแย่กับตัวเอง ทั้งเกรงใจสามี ทั้งอายหมอ ยิ่งคิดมากยิ่งหดหู่ลงไปเรื่อยๆ เธอกับสามีจึงตัดสินใจปรึกษาคุณหมอถึงเรื่องนี้ การเปิดเผยเรื่องส่วนตัวกับแพทย์ประจำตัวเธอให้ผลดีกว่าที่คิด ทำให้ได้รับคำแนะนำที่ดีในการสกัดอาการ และป้องกันหอบหืดไม่ให้กำเริบขึ้นมาบ่อยๆ โดยเฉพาะขณะที่มีกิจกรรมสำคัญกับสามีของเธอ
คนเป็นหอบหืด เมื่อถูกกระตุ้นด้วยกิจกรรมที่อาศัยอารมณ์และพลังงานค่อนข้างมากอย่างนี้ อาจเป็นสาเหตุให้ทางเดินหายใจเกิดอาการบวมและตีบรัด ไปจนถึงปิดตันทำให้หายใจไม่ออก หรือหายใจเป็นห้วงสั้นๆ เรื้อรังไม่หายเสียที สาเหตุอาจมาจากสภาพแวดล้อมของห้องนอน ที่นอน ฝุ่นละออง ไรฝุ่น สภาพอากาศ แม้กระทั่งการแพ้ยางจากที่นอนหรือถุงยางอนามัยในบางคน ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้อาการกำเริบได้ทั้งสิ้น เมื่อไปหาหมอ คุณหมออาจลืมไปว่าโรคหอบหืดมีผลกระทบต่อการมีเพศสัมพันธ์ด้วยจึงไม่ทันได้ถาม ได้แต่มุ่งเน้นหาวิธีรักษาอาการที่ทำให้หายใจสะดวกเป็นหลัก ปัญหาจึงยังไม่ได้รับการแก้ไข เคยมีคนศึกษาจริงจังเรื่องนี้ที่สหรัฐอเมริกา พบว่าจากตัวอย่างคนไข้หอบหืด 353 คน 2 ใน 3 กล่าวว่าโรคนี้มีผลต่อการปฏิบัติกิจกรรมทางเพศของเขากับคู่ โดย 1 ใน 5 ถึงกับละเว้นการมีกิจกรรมอย่างว่าไปเลย กายเสียไม่พอใจยังเสียไปด้วย บางส่วนกลายเป็นคนเก็บกดหดหู่กับชีวิต ไม่สามารถดำเนินชีวิตอย่างเป็นปกติเช่นที่ควรจะเป็นได้
ดังนั้นจึงอยากแนะนำว่า หากคุณหมอประจำตัวของคุณยังไม่เอ่ยปากถามถึงปัญหาเรื่องนี้ คุณอาจเป็นคนเปิดประเด็นถาม และขอคำแนะนำ รับรองว่าร้อยทั้งร้อย คุณหมอของคุณจะยินดีให้คำแนะนำดีๆ แน่ๆ เช่นในกรณีของคุณปุ๋ยที่เล่าไปข้างต้น
คุณที่เป็นหอบหืดอาจต้องใช้ยาประเภทขยายหลอดลมเข้ามาช่วย โดยต้องอยู่ในความดูแลของคุณหมอทั้งขนาด ปริมาณ และระยะเวลาที่เหมาะสม ฤทธิ์ของยาจะช่วยคลายกล้ามเนื้อหลอดลมจากการหดเกร็ง เพิ่มการไหลเวียนของอากาศ ซึ่งมักจะได้ผลทันทีภายในเวลา 1 ชั่วโมง แต่ต้องระวังหน่อยเพราะการใช้ยาขยายหลอดลมในปริมาณมากเกินไปเป็นอันตราย หากใช้ติดต่อกันระยะหนึ่งยังไม่หายต้องรีบปรึกษาคุณหมอประจำตัวของคุณโดยด่วน
เรื่องสิ่งแวดล้อมก็สำคัญ โรคหอบหืดมีตัวกระตุ้นให้อาการกำเริบได้ใกล้เคียงกับโรคภูมิแพ้ ควรหาสาเหตุให้พบว่าคุณแพ้อะไร หรืออะไรที่มักทำให้อาการกำเริบได้เสมอ เลือกใช้ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม หรือหมอน แบบที่ป้องกันฝุ่น ไรฝุ่น หรือปราศจากละอองตัวก่อภูมิแพ้ หากเดิมป้องกันได้ไม่ดีก็น่าจะเปลี่ยนซะ เรื่องแบบนี้หมอหรือผู้เชี่ยวชาญโรคภูมิแพ้น่าจะให้คำปรึกษากับคุณได้ครับ และอยู่ให้ห่างๆ บุหรี่ แอลกอฮอล์ ถึงจะไม่สูบเองคนข้างเคียงก็ไม่ควรสูบ เพราะเพียงแค่ควันบุหรี่จะยิ่งกระตุ้นให้อาการหอบหืดกำเริบง่ายมาก
นอกจากการใช้ยา และจัดการกับสิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อการหายใจแล้ว ยังมีเทคนิคปฏิบัติการกับชีวิตบนเตียงบางอย่างที่น่าสนใจสำหรับคนเป็นหอบหืด
- ให้คู่ของคุณรับบทบาทเป็นผู้นำ ศ.ดร.พอล เซเลคกี แพทย์ผู้อำนวยการแผนกโรคปอด และศูนย์โรคนอนไม่หลับ โรงพยาบาลโฮค เมมโมเรียล ที่นิวพอร์ท บีช แคลิฟอร์เนีย และวิทยาลัยแพทย์ UCLA ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการช่วยคนที่ป่วยเป็นโรคหอบหืดให้กลับมามีความสุขกับชีวิตคู่ ได้แนะนำว่าให้ทำตัวเป็นผู้ตามดีกว่าเป็นผู้นำ เพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดทอนสาเหตุของการหายใจแบบสั้นๆ เป็นห้วงๆ ให้น้อยลง
- เปิดใจยอมรับท่าทางหรือวิธีการที่หลากหลายให้มากขึ้น ความสุขของการเมคเลิฟกับคนที่คุณรักอาจจะไม่จำเป็นต้องเน้นการสอดใส่เสมอไป มีวิธีอื่นอีกตั้งเยอะที่จะสร้างความเพลิดเพลินให้กับคู่ของคุณ ดังนั้นลองหาวิธีการแบบที่ไม่ต้องใช้แรงมากๆ ที่สร้างความพึงพอใจให้กันได้ ก็จะช่วยเลี่ยงอาการหายใจเหนื่อยหอบได้
- ปรับเวลาในการทำกิจกรรมกับคู่ของคุณ หากคุณสามารถจัดเวลาให้อำนวยได้ เวลาช่วงสายๆ หรือช่วงบ่ายอ่อนๆ ของวันจะเป็นเวลาดีที่สุด เพราะเป็นเวลาที่ปอดของคนจะทำหน้าที่ได้ดีที่สุด โดยคุณหมอพอลให้เหตุผลว่า ตอนเช้าตรู่เป็นเวลาที่ฤทธิ์ยาลดลงมากที่สุด ส่วนตอนเย็นหรือค่ำคืนร่างกายคุณก็อาจจะอ่อนเพลียเกินไปแล้ว จึงอาจทำให้เสี่ยงต่อการเหนื่อยหอบได้ง่าย
- เลี่ยงกิจกรรมที่เพิ่มความกดดันต่อปอดของคุณ เช่น ท่าทางบางท่าอาจต้องปรับเปลี่ยน เช่นตำแหน่งที่ก่อให้เกิดการกดทับต่อปอด ควรหลีกเลี่ยงสำหรับผู้ป่วยหอบหืด
ดังนั้น ใครที่ป่วยเป็นหอบหืด หรือมีคู่ชีวิตที่มีโรคนี้ประจำตัว หากรักกันจริงก็ต้องยอมรับสภาพ และหันมาช่วยกันประคับประคองชีวิตรักตามที่แพทย์แนะนำนะครับ เพื่อช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการกำเริบของโรค ป้องกันไว้ดีกว่าตามแก้ไข แล้วอย่างนี้ความสุขก็ไม่ไปไหนไกลครับ